ทำไมถึงตัดสินใจทำศัลยกรรม
ฉันรู้ตัวว่าคางยาวและฟันไม่สบกันเหมือนเพื่อน ๆ ตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมต้น ตอนแรกคิดว่าจะแก้ได้ด้วยการจัดฟัน เลยไปปรึกษาทันตแพทย์หลายท่าน แต่ทุกคนก็แนะนำให้ทำศัลยกรรมสองขากรรไกร
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นยังอยู่มัธยมต้น และค่าใช้จ่ายก็สูงมาก เลยตัดสินใจรอดูผลหลังจัดฟันก่อนว่าจะต้องทำหรือไม่ หลังจากจัดฟันไปประมาณ 3 ปี ก็รู้สึกว่าการจัดฟันอย่างเดียวไม่พอ จึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดสองขากรรไกรในที่สุด
ความไม่มั่นใจก่อนการผ่าตัด
การถ่ายรูปกับคนอื่นเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันเครียดมาก เพราะมีปัญหาใบหน้าไม่สมมาตร และคางที่ยาวทำให้คอดูสั้น และหน้าดูใหญ่ นอกจากนี้ฉันยังมีนิสัยชอบเอามือปิดหน้า เพราะรู้สึกว่าโหนกแก้มกว้าง ทำให้หน้าดูแบน
เหตุผลที่เลือกคลินิก EU
หลังจากตัดสินใจทำศัลยกรรมสองขากรรไกร สิ่งแรกที่ทำคือการหาข้อมูลคลินิกและโรงพยาบาลต่าง ๆ จาก YouTube วิดีโอในช่องของ EU Oral & Maxillofacial Surgery มีคำอธิบายและรีวิวที่ละเอียด ทำให้ฉันหายสงสัยและคลายความกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดสองขากรรไกรลงได้มาก เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น ฉันจึงเข้าพบเพื่อปรึกษาที่คลินิก การประเมินที่ครอบคลุมและการได้พบศัลยแพทย์ทำให้ฉันมั่นใจ ที่จะเข้ารับการผ่าตัด ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย ฉันได้ไปปรึกษาที่คลินิกอื่น แต่ก็ยังไม่พอใจเท่าที่ EU นอกจากนี้ EU ยังมีรีวิวที่ดีในเว็บไซต์ข้อมูลการผ่าตัดสองขากรรไกร ทำให้ฉันตัดสินใจผ่าตัดที่นี่
วันที่ 1
เมื่อวานเอาแต่นอนเพราะยังได้รับผลจากยาสลบอยู่ แต่วันนี้อาการดีขึ้นแล้ว รู้สึกสบายตัวขึ้นมาก หลังจากเอาสายสวนปัสสาวะและสายให้ออกซิเจนทางจมูกออก แม้จะรู้สึกไม่สบายตัว แต่ศัลยแพทย์ก็ได้ทำความสะอาดช่องปากให้ตอน 9 โมงเช้า ถึงแม้จะทานได้แค่ Nucare (เครื่องดื่มทดแทนมื้ออาหาร) กับน้ำเปล่า ก็ยังกลืนยากเพราะคอบวม อยากให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ จังเลย
วันที่ 7
วันนี้ไปคลินิกเพื่อตัดไหมที่โหนกแก้ม ไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย อาการบวมยังดูเหมือนเดิม แต่ฉันรู้สึก อ่อนเพลียและเวียนหัว อาจเป็นเพราะทานอะไรไม่ได้เลย พอกลับถึงบ้าน ดื่มกาแฟไปหน่อยก็รู้สึกดีขึ้น แต่หิวมากเลยค่ะ ตอนนี้สามารถใช้ชีวิตประจำวันและออกไปข้างนอกได้ตามปกติแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดคือการกินไม่ได้เลยนี่แหละ
วันที่ 14
วันนี้เป็นวันตัดไหม กังวลมากกลัวจะเจ็บ แต่เจ็บน้อยกว่าที่คิดมาก เหมือนแค่รู้สึกแสบ ๆ เท่านั้นเอง ตั้งแต่วันนี้ฉันได้รับอนุญาตให้ทานอาหารที่กลืนได้โดยไม่ต้องเคี้ยว เลยไปซื้อโจ๊กมาทาน โจ๊กยังเป็นก้อนเกินไป เลยคิดว่าควรปั่นหรือบด ก่อนทานน่าจะดีกว่า อาการบวมไม่ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็รู้สึก สบาย ขึ้นมากที่พูดคุยและทานอาหารได้โดยไม่มีไหมแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก
1 เดือนหลังผ่าตัด
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว! ไปคลินิกเพื่อเอ็กซเรย์ และดีใจมากที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่วันนี้สามารถเคี้ยวอาหารนิ่ม ๆ ได้แล้ว เลยรีบทานจาจังมยอน (บะหมี่ดำเกาหลี) ทันที ตั้งตารอมาก แต่ความรู้สึกที่เหงือกด้านบนยังไม่กลับมา เลยไม่รู้สึกเหมือนกำลังเคี้ยว สุดท้ายก็เคี้ยวไปนิดเดียวแล้วกลืนลงไปเลย ฉันคิดว่าใบหน้าดูบวมขึ้นเพราะทานบะหมี่เยอะมาก แต่ตอนนี้อ้าปากง่ายแล้ว โชคดีที่เริ่มมีความรู้สึกกลับมาที่โหนกแก้มแล้ว
2 เดือนหลังผ่าตัด
ตอนนี้ครบสองเดือนแล้ว ความรู้สึกที่เหงือกด้านบนและโหนกแก้มกลับมาแล้ว และไม่รู้สึกอึดอัดมากเวลาเคี้ยว ถึงแม้จะยังจำกัดอาหารอยู่มาก ซึ่งน่าผิดหวัง แต่ก็ดีใจที่ได้ทานอาหารได้หลากหลายขึ้นกว่าเดิม ส่วนอาการบวมนั้นลดลงมากในเดือนที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มบอกฉันว่าการผ่าตัดเป็นการตัดสินใจที่ดี เดือนหน้าจะทานได้ง่ายขึ้นแล้ว หวังว่าเวลาจะผ่านไปเร็ว ๆ และอาการบวมจะลดลงอย่างรวดเร็ว
3 เดือนหลังผ่าตัด
วันนี้ครบ 3 เดือนหลังผ่าตัดแล้ว! ในที่สุด! ตอนผ่าตัดเคยสงสัยว่าวันนีจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่เวลาผ่านไปเร็วมาก ฉันไม่ได้ไปคลินิกเลยตั้งแต่หลังตรวจติดตามผล 1 เดือน เลยกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด ทำให้รู้สึกกังวลก่อนพบศัลยแพทย์ โชคดีที่ท่านบอกว่าฉันฟื้นตัวได้ดี และสิ่งที่กังวลก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย อาการบวมลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคางสั้นลง เหนียงก็เลยเด่นขึ้นมาแทน ฉันคิดว่าควรจะลดน้ำหนักบ้าง
4 เดือนหลังผ่าตัด
ไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ แต่ก็ครบ 4 เดือนหลังผ่าตัดแล้ว! ฉันคิดว่าอาการบวมส่วนใหญ่หายไปตั้งแต่เดือนที่ 3 แต่ช่วงนี้เพื่อน ๆ บอกว่าอาการบวมลดลงอีก ทำให้ฉันดีใจมาก บริเวณโหนกแก้มยังรู้สึกบวมอยู่บ้าง แต่ก็ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แทบไม่มีอาการไม่สบาย เวลาเคี้ยวแล้ว! ส่วนที่ดีที่สุดคือ ฉันได้รับอนุญาตให้ทานอาหารที่หลากหลายขึ้น
นี่มันสุดยอดจริงๆ ช่วงนี้ฉันเริ่มออกกำลังกายแล้ว จะต้องพยายามอย่างหนักจนกว่าแนวกรามจะชัดเจน! ช่วงนี้ดีใจที่ตัดสินใจผ่าตัดจริง ๆ
5 เดือนหลังผ่าตัด
ตอนนี้ครบห้าเดือนแล้ว! ส่วนอาการบวมนั้น ฉันบอกความแตกต่างไม่ได้ แต่คนอื่นบอกว่าอาการบวมลดลงมาก ทำให้ฉันมีความสุข ยังมีอาการบวมบ้างที่คางและโหนกแก้ม แต่โชคดีที่มันยังคงลดลงทีละเล็กละน้อย เดือนหน้าจะครบ 6 เดือนแล้ว หวังว่าเหนียงจะหายไปในตอนนั้นด้วย!
6 เดือนหลังผ่าตัด
ผ่านไปครึ่งปีแล้วตั้งแต่ผ่าตัด! การลดน้ำหนัก ทำให้เหนียงยุบลง แต่ก็ยังเห็นอยู่บ้าง 555 อาจเป็นเพราะเหตุนี้ ฉันเลยคิดว่าการทำศัลยกรรมสองขากรรไกรเป็นการตัดสินใจที่ดี! จะดีกว่านี้ถ้าได้ถอดเหล็กจัดฟัน ด้วย เนื่องจากสถานการณ์โควิด ฉันเลยไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกและถ่ายรูป แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่ต้องใส่หน้ากาก เพราะใบหน้ายังบวมเล็กน้อย ฉันคิดว่าคงต้องใช้เวลาสักพักกว่าอาการบวมจะหายไปสนิท เพราะปกติก็เป็นแบบนี้ อยากจะถอดหน้ากากแล้ว!
7 เดือนหลังผ่าตัด
ตอนนี้ผ่านมา 6 เดือนแล้ว อาการบวมที่เห็นได้ชัด หายไปหมดแล้ว และที่เหลืออยู่ก็เป็นอาการบวมที่ละเอียดอ่อน เมื่อไม่กี่เดือนก่อน หน้ากากยังรู้สึกคับนิดหน่อยเพราะอาการบวม แต่ตอนนี้ใส่ได้สบายแล้ว ฉันสามารถทานเกือบทุกอย่างที่อยากทาน และไม่มีอะไรมารบกวนชีวิตประจำวันเลย ดีมากจริง ๆ ! แต่จะดีกว่านี้ถ้าอาการบวมเล็กน้อยที่โหนกแก้มหายไป
8 เดือนหลังผ่าตัด
ตอนนี้ผ่านมา 8 เดือนแล้ว ไม่มีความรู้สึกไม่สบายใดๆ เลย หวังว่าจะเสร็จสิ้นการจัดฟันเร็วๆ นี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะศัลยกรรมสองขากรรไกรหรือน้ำหนักขึ้น แต่เหนียงใหม่และโหนกแก้มของฉันไม่เป็นโครงหน้าเรียบเนียน อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงลดน้ำหนักและมันดูดีขึ้นกว่าเดิม ฉันคิดว่ามันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าฉันดูแลรูปร่างต่อไป
9 เดือนหลังผ่าตัด
ใกล้จะครบหนึ่งปีแล้ว! ตอนนี้ฉันลดน้ำหนักได้แล้ว โครงหน้าและแนวกรามก็เริ่มชัดเจน ทำให้ฉันคิดว่าการผ่าตัดเป็นการตัดสินใจที่ดี อาการบวมที่ละเอียดอ่อนแทบจะหายไปหมดแล้ว และฉันไม่มีความไม่สบายใดๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน
10 เดือนหลังผ่าตัด
เนื่องจากใกล้จะครบหนึ่งปีแล้ว แทบไม่มีความไม่สบายใดๆ เลย และคางก็ดูเป็นไปตามที่ฉันต้องการ! ฉันอยากจะถอดเหล็กจัดฟันเร็ว ๆ นี้ด้วย
11 เดือนหลังผ่าตัด
ใกล้จะครบหนึ่งปีจริง ๆ แล้ว! ฉันได้ทานทุกอย่างที่อยากทาน และคางก็ไม่เจ็บ เยี่ยมมาก ตอนนี้ฉันมีความรู้สึกกลับมาทั้งหมดแล้ว เลยไม่มีความไม่สบายเลย! สำหรับเหล็กจัดฟัน ฉันดีใจมากที่จะได้ถอดมันออกเร็ว ๆ นี้ ฉันคิดมาตลอดว่าการตัดสินใจผ่าตัดเป็นการตัดสินใจที่ดี
12 เดือนหลังผ่าตัด
ตอนนี้ครบหนึ่งปีแล้วจริง ๆ ฉันถอดเหล็กจัดฟันออกแล้วและไม่มีความไม่สบายใด ๆ แต่น่าทึ่งมาก! เวลาหนึ่งปีผ่านไปเร็วมาก เพื่อน ๆ บอกฉันว่าอาการบวมดูเหมือนจะหายไปหมดแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ยิน ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีต่อไปในอนาคตด้วย!