ศัลยกรรม ตัดกราม ปรับรูปหน้าเรียวสวยให้ใบหน้าเรียวเล็ก

ศัลยกรรมผ่าตัดกราม ปรับรูปหน้าเรียว

ตัดกราม

การตัดกรามคืออะไร? เหมาะกับใคร? และจะช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้อย่างไร? หากคนไข้กำลังมีคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ บทความนี้มีคำตอบ การตัดกราม เป็นหนึ่งในเทคนิคการปรับรูปหน้าศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพื่อแก้ไขปัญหาโครงหน้ากว้าง หรือกรามใหญ่ให้ได้สัดส่วนที่สวยงามยิ่งขึ้น เราจะมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันว่าการศัลยกรรมประเภทนี้คืออะไร และใครบ้างที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมตัดกราม

ศัลยกรรมตัดกราม คืออะไร

ศัลยกรรมลดกรามเป็นการผ่าตัดปรับโครงสร้างกระดูกกราม ตั้งแต่บริเวณใต้ใบหูไปจนถึงคางด้านข้าง เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยศัลยแพทย์จะพิจารณาลักษณะและการเติบโตของกระดูกแต่ละคนเป็นสำคัญ จากนั้นจึงทำการเหลาหรือปรับแต่งกระดูก รวมถึงการต่อกระดูกเพื่อสร้างรูปคางที่เรียวสวยและเหมาะสมที่สุด ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมขากรรไกรและโครงหน้าอียู มุ่งมั่นสร้างสรรค์ใบหน้าที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะมองจากด้านหน้าหรือด้านข้าง ก็ดูสมส่วนอย่างลงตัว

การตัดกรามเหมาะกับใคร

การศัลยกรรมตัดกราม เหมาะกับคนใบหน้าแบบไหน

การผ่าตัดกรามเป็นการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ซึ่งเหมาะกับคนที่มีปัญหาเหล่านี้

  • มีกรามใหญ่ หรือกรามเหลี่ยม เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปหน้ากว้าง กรามใหญ่ หรือมุมกรามที่เห็นชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้าง
  • ใบหน้าไม่สมมาตร หากกรามทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล การผ่าตัดกรามช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
  • กรามยื่น สำหรับคนที่มีกรามยื่นออกมาด้านหน้ามากเกินไป ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน
  • อยากมีใบหน้าเรียวสวยแบบ V-Shape การผ่าตัดกรามสามารถช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวเล็ก ดูเป็นทรง V-Shape เพื่อความสวยงามและความมั่นใจ
  • มีปัญหากัดฟัน หรือเคี้ยวอาหาร หากมีปัญหาเกี่ยวกับการสบฟัน หรือเคี้ยวอาหารลำบาก ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว
  • อยากให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และอ่อนโยนขึ้น การปรับโครงหน้าให้เล็กลง สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนวัยและละมุนขึ้นได้
  • มีปัญหาคาง รวมถึงผู้ที่มีปัญหาคางเบี้ยว คางสั้น หรือคางใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อรูปหน้าโดยรวม

ผ่าตัดกรามดีอย่างไร

จุดเด่นของการผ่าตัดลดขนาดกราม

การผ่าตัดกรามไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังมีประโยชน์และข้อดีอีกหลายอย่าง เช่น

  • ช่วยให้ขากรรไกรและฟันทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟันบนยื่น ฟันล่างยื่น หรือฟันสบกันแบบไขว้ การผ่าตัดกรามจะช่วยแก้ไขโครงสร้างเหล่านี้ ทำให้ คนไข้กัดและเคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลดปัญหาฟันสึก เมื่อการสบฟันผิดปกติ ฟันอาจสึกหรอเสียหายได้ง่าย การผ่าตัดกรามช่วยลดปัญหานี้ได้
  • แก้ไขปัญหารอยยิ้ม สำหรับคนที่ยิ้มแล้วเห็นเหงือกมากเกินไป หรือยิ้มแล้วไม่เห็นฟันเพราะริมฝีปากบัง การผ่าตัดกรามก็ช่วยปรับให้รอยยิ้มของ คนไข้ดูสวยงามขึ้น
  • ปรับสมดุลใบหน้า การผ่าตัดกรามสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง คางสมส่วน หรือแก้ไขใบหน้าที่เบี้ยวไม่สมมาตรได้
  • แก้ไขปัญหาข้อต่อขากรรไกร หาก คนไข้มีปัญหาข้อต่อขากรรไกร หรือปิดปากไม่สนิทในขณะพัก การผ่าตัดกรามอาจเป็นทางออก
  • ช่วยเรื่องการนอน ในบางกรณี การผ่าตัดกรามสามารถช่วยรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และลดอาการนอนกรนได้
  • เพิ่มความมั่นใจ ที่สำคัญที่สุดคือ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์ของ คนไข้ได้อย่างถาวร

ผ่าตัดกรามผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกันอย่างไร

การผ่าตัดกรามในผู้ชายและผู้หญิงมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในด้านโครงสร้างกระดูกกราม เทคนิคการผ่าตัด การออกแบบใบหน้า และจุดประสงค์ของผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยผู้ชายจะมีกระดูกกรามที่หนา แข็งแรง และมีมุมกรามคมชัด ซึ่งเทคนิคการผ่าตัดจะเน้นคงความคมชัดเพื่อรักษารูปลักษณ์ที่เป็นชาย และการออกแบบใบหน้าจะเน้นความคมชัดและสมดุลของโครงหน้า 

ในทางกลับกัน ผู้หญิงจะมีกระดูกกรามบางและมุมกรามโค้งมนกว่า การผ่าตัดจึงเน้นลดความหนาของกระดูก ปรับมุมกรามให้โค้งมน เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก อ่อนโยน และลดความเหลี่ยมของกราม ซึ่งเป็นไปตามจุดประสงค์ที่ต้องการปรับโครงหน้าให้ดูนุ่มนวลและมีเสน่ห์แบบผู้หญิง

เคยตัดกรามมาแล้วแต่กรามไม่เท่ากัน แก้ไขอย่างไร

เคยศัลยกรรมผ่าตัดกราม แล้วหน้าไม่เท่ากันแก้อย่างไร
  • ผ่าตัดขากรรไกรแก้ไขโครงหน้าไม่เท่ากัน ถ้ากรามไม่เท่ากันเกิดจากโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ ศัลยแพทย์จะประเมินและปรับให้ใบหน้าสมมาตรมากขึ้น
  • ผ่าตัดกล้ามเนื้อกราม หากกล้ามเนื้อกรามมีขนาดไม่เท่ากันและต้องการแก้ไขแบบถาวร ก็สามารถผ่าตัดกล้ามเนื้อกรามได้
  • ผ่าตัดกระดูกมุมกราม ในกรณีที่ปัญหามาจากกระดูกกรามไม่เท่ากัน การผ่าตัดกระดูกจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างถาวรและเห็นผลชัดเจน
  • ผ่าตัดฟื้นฟูโครงหน้า (Facial Reconstruction) ถ้าการผ่าตัดกรามครั้งก่อนทำให้โครงหน้าไม่สมดุลหรือใบหน้าหย่อนคล้อย อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดฟื้นฟูโครงหน้าเพื่อแก้ไขปัญหานี้

จุดเด่นของการตัดกราม

การผ่าตัดกรามไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพได้อีกด้วย มาดูกันว่าจุดเด่นของการผ่าตัดกรามมีอะไรบ้าง

  • ปรับรูปหน้าให้สวยสมดุล ไม่ว่าจะเป็นกรามใหญ่ กรามเหลี่ยม หรือกรามไม่เท่ากัน การผ่าตัดจะช่วยให้ใบหน้าของคนไข้เรียวเล็ก ละมุน และมีสัดส่วนที่ลงตัวมากขึ้น
  • ไร้รอยแผลเป็นภายนอก การผ่าตัดส่วนใหญ่จะทำผ่านช่องปาก ทำให้ไม่มีแผลเป็นปรากฏให้เห็นภายนอก
  • ผลลัพธ์แม่นยำและปรับแต่งได้ ศัลยแพทย์สามารถใช้เครื่องมือพิเศษที่ทันสมัยเพื่อตัดแต่งกรามได้อย่างแม่นยำ ตามความต้องการของคนไข้
  • ปลอดภัยต่อเส้นประสาท เทคนิคการผ่าตัดสมัยใหม่ช่วยลดความเสี่ยงในการกระทบกระเทือนเส้นประสาทได้มากกว่าวิธีเดิม ๆ
  • แก้ปัญหาการสบฟัน หากคนไข้มีปัญหาฟันยื่น ฟันสบกันไม่ดี หรือการเคี้ยวอาหารลำบาก การผ่าตัดกรามสามารถช่วยแก้ไขให้การสบฟันเป็นปกติ เคี้ยวอาหารและพูดได้ดีขึ้น
  • ลดอาการปวดขากรรไกร สำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อต่อขากรรไกร การผ่าตัดอาจช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร การผ่าตัดกรามให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ช่วยเพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพ และส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากโดยรวม

ข้อเสียของการผ่าตัดกราม

  • ความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ การผ่าตัดกรามก็มีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ บวมช้ำ หรืออาจส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการ ชา หรือรู้สึกผิดปกติบริเวณใบหน้า ได้
  • ช่วงพักฟื้น คนไข้ต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5-10 วัน ซึ่งในช่วงนี้อาจมีอาการ บวมและเจ็บปวด
  • ผลลัพธ์ไม่เห็นทันที รูปหน้าจะยังไม่เข้าที่สมบูรณ์ทันทีหลังผ่าตัด ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสมดุล
  • ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การผ่าตัดนี้ต้องอาศัย ศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง และใช้ เครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • อาจต้องจัดฟันร่วมด้วย ในบางกรณี คนไข้อาจต้อง ผ่าตัดร่วมกับการจัดฟัน ซึ่งจะทำให้ ระยะเวลาการรักษาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
  • สุขภาพและความพร้อมของผู้ป่วย ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดต้องมี สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีความพร้อมที่จะรับมือกับผลลัพธ์และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

เทคนิคตัดกรามมีกี่วิธี

เทคนิคการผ่าตัดกราม ข้อแตกต่าง

การผ่าตัดกรามมี 2 เทคนิค ที่ศัลยแพทย์เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของคนไข้

เทคนิคเปิดแผลนอกช่องปาก

วิธีนี้ศัลยแพทย์จะเปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณเหงือกด้านหลังฟันกราม แล้วใช้เครื่องมือพิเศษตัดแต่งกรามจากด้านใน ข้อดีคือคนไข้จะไม่มีรอยแผลเป็นภายนอกเลย และศัลยแพทย์ยังสามารถตกแต่งกรามให้โค้งมนสวยงามได้อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม หลังผ่าตัดวิธีนี้อาการบวมอาจจะมากกว่า และใช้เวลาประมาณ 5-10 วันกว่าจะยุบลง ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีความเชี่ยวชาญสูง และใช้เครื่องมือที่ทันสมัย

เทคนิคเปิดแผลในช่องปาก

สำหรับวิธีนี้ ศัลยแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลบริเวณมุมกรามด้านนอก แล้วจึงทำการตัดหรือกรอกระดูกกรามให้เล็กลง ข้อดีคือทำได้ง่ายกว่า และหลังผ่าตัดอาการบวมจะน้อยกว่า ใช้เวลาประมาณ 3-5 วันก็จะดีขึ้น แต่ข้อเสียที่สำคัญคือจะมีรอยแผลเป็นยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตรตรงมุมกราม และมีความเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนเส้นประสาทมากกว่า ซึ่งอาจทำให้มีอาการปากเบี้ยวชั่วคราวได้

เทคนิคนอกช่องปาก VS. ในช่องปาก แบบไหนดีกว่า

การผ่าตัดกรามแบบเปิดแผลในช่องปากและนอกช่องปากมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

ด้านผ่าตัดกรามแบบแผลในช่องปากผ่าตัดกรามแบบแผลนอกช่องปาก
ข้อดีไม่มีรอยแผลเป็นภายนอกสามารถตัดแต่งกรามได้เรียบเนียนและโค้งมนมากกว่าโอกาสกระทบเส้นประสาทน้อยกว่ากระดูกกรามที่ได้จะโค้งเนียนสวยกว่าทำได้ง่ายกว่าในแง่พื้นที่ผ่าตัดอาการบวมหลังผ่าตัดน้อยกว่า (ประมาณ 3-5 วัน)ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมากเท่า
ข้อเสียอาการบวมมากกว่า (ประมาณ 5-10 วัน)ต้องใช้ความชำนาญสูงและเครื่องมือเฉพาะต้องดูแลความสะอาดในช่องปากอย่างเคร่งครัดมีรอยแผลเป็นภายนอกประมาณ 2-3 ซม.เสี่ยงกระทบเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อมุมปากสูงกว่า อาจทำให้ปากเบี้ยวชั่วคราวได้ไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ไม่อยากตัดกราม แต่อยากมีมุมกรามสามารถทำได้หรือไม่ 

ถ้าอยากมีใบหน้าเรียวสวย มีมิติ โดยเฉพาะบริเวณกราม แต่ไม่อยากเจ็บตัวจากการผ่าตัด ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยให้คนไข้ได้รูปหน้าที่ต้องการ ลองมาดูวิธีเหล่านี้กัน

  • ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก หากกล้ามเนื้อกรามของคนไข้ใหญ่จากการใช้งานเยอะ เช่น เคี้ยวอาหารเหนียวบ่อย ๆ โบท็อกซ์จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อส่วนนี้ลง ทำให้กรามดูเล็กลงและเห็นมุมกรามชัดเจนขึ้น ใบหน้าก็จะดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเลย
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง การเสริมคางให้ได้รูปด้วยฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มมิติและความยาวให้ใบหน้า ทำให้กรามดูสมดุลและรับกับใบหน้าโดยรวมมากขึ้น วิธีนี้ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติสวยงามขึ้นทันที
  • บริหารใบหน้าและกราม การออกกำลังกายเฉพาะส่วนบนใบหน้าและกราม เช่น การทำปากจู๋ การขมวดคิ้ว หรือท่าบริหารขากรรไกร จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้กระชับขึ้น และช่วยให้รูปหน้าดูเรียวขึ้นได้
  • โปรแกรม RF (Radio Frequency) และเลเซอร์ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยกระชับผิวและลดไขมันส่วนเกินบริเวณกราม ทำให้กรามดูเล็กลงและมุมกรามดูคมชัดขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • จัดฟัน ในบางกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันหรือขากรรไกรที่ผิดปกติ การจัดฟันอาจช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดกราม

ตัดกรามต้องจัดฟันร่วมด้วยหรือไม่

ถ้าไม่มีปัญหาการสบฟันผิดปกติ สามารถตัดกรามได้โดยไม่ต้องจัดฟัน แต่ถ้ามีปัญหาฟันผิดตำแหน่งหรือสบฟันไม่ดี ควรจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดกรามเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม การจัดฟันก่อนหรือหลังผ่าตัดขึ้นกับการวินิจฉัยและแผนการรักษาของศัลยแพทย์แต่ละคน

ตัดกราม จำเป็นต้องเลื่อนตัดคางร่วมด้วยเสมอเลยหรือไม่

ไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับรูปหน้าและความต้องการของคนไข้ หากมีปัญหาคางยื่น สั้น หรือใหญ่ร่วมด้วย ศัลยแพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดคางพร้อมกราม เพื่อให้ใบหน้าส่วนล่างสมดุล เพราะคางและกรามเกี่ยวข้องกันมาก การปรับแค่อย่างเดียวอาจทำให้ไม่สมส่วน แต่ถ้าคางไม่มีปัญหาก็สามารถตัดกรามอย่างเดียวได้ การผ่าตัดคางมีหลายเทคนิคเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว การวางแผนทั้งหมดจะพิจารณาจากโครงสร้างใบหน้าโดยรวม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเป็นธรรมชาติ

ตัดกรามเจ็บหรือไม่

ขณะผ่าตัดกราม จะไม่รู้สึกเจ็บเลยเพราะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ร่วมกับยาสลบ แต่หลังผ่าตัดเป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการปวดและบวมมากในช่วง 3 วันแรก ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ศัลยแพทย์จะจัดยาแก้ปวดให้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ และสามารถทานยาได้ตามคำแนะนำ

หลังผ่าตัดไปแล้ว มีอาการชาหรือไม่? นานเท่าไหร่?

หลังผ่าตัดอาจมีอาการชาบริเวณใบหน้า เช่น ริมฝีปากบน ริมฝีปากล่าง คาง หรือแก้มได้ เนื่องจากเส้นประสาทอาจถูกกระทบกระเทือนระหว่างการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม อาการชาจะเป็นเพียงชั่วคราวและจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองภายในเวลาประมาณ 1 ปี

ตัดกรามมีผลข้างเคียงอย่างไร

นอกเหนือจากอาการปวดและบวมแล้ว ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ อาการฟกช้ำและรอยช้ำบริเวณใบหน้าและลำคอ อาการเจ็บคอหรือกลืนลำบากในช่วงแรก รวมถึงอาจมีน้ำลายปนเลือดเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก เช่น การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด ภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือกระดูกขากรรไกรเคลื่อนหรือไม่ติดกัน 

นอกจากนี้ อาจมีอาการหูอื้อหรือเสียงเปลี่ยนชั่วคราว รวมถึงอาการบวมที่อาจทำให้หายใจลำบากในช่วงแรก ซึ่งศัลยแพทย์จะแนะนำให้นอนศีรษะสูงและประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยลดอาการบวม

หลังผ่าตัดผิวคล้อยหรือไม่?

โดยปกติแล้ว การผ่าตัดกรามจะไม่ทำให้ผิวหน้าคล้อยถาวร เพราะเป็นการตัดแต่งกระดูกกรามโดยตรง อย่างไรก็ตาม อาการบวมและฟกช้ำที่เกิดขึ้นในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกว่าผิวหน้าหย่อนคล้อยชั่วคราว แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นและผิวหน้าจะกลับคืนสู่ปกติเมื่ออาการบวมลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเหมาะสม เช่น การประคบน้ำแข็งและการนอนศีรษะสูง จะช่วยลดอาการบวมและป้องกันไม่ให้ผิวหย่อนคล้อยได้

ข้อมูลการผ่าตัดกราม ที่ควรรู้

ระยะเวลาการผ่าตัด

การผ่าตัดกรามโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ในกรณีที่ซับซ้อน เช่น การผ่าตัดเลื่อนกระดูกขากรรไกร อาจใช้เวลานานขึ้นถึง 4-6 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และความซับซ้อนของแต่ละเคส

วิธีการวางยา

ระหว่างการผ่าตัดกราม จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เนื่องจากจะได้รับยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ที่จะดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด

การนอนโรงพยาบาล

หลังผ่าตัด คนไข้จะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1-4 วัน โดยส่วนใหญ่จะพักประมาณ 2 คืน เพื่อให้ศัลยแพทย์และพยาบาลได้เฝ้าดูอาการและดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

การมาโรงพยาบาล

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด คนไข้ควรงดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และควรงดเว้นยาละลายลิ่มเลือด วิตามิน สมุนไพร รวมถึงงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ควรเตรียมตัวตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด

การตัดไหม

สำหรับการผ่าตัดกรามที่ทำผ่านช่องปาก ส่วนใหญ่จะใช้ไหมละลายในการเย็บแผล ซึ่งจะละลายและถูกดูดซึมโดยร่างกายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด ทำให้คนไข้ไม่ต้องกลับมาให้ศัลยแพทย์ตัดไหม

ระยะเวลาการพักฟื้น

ในช่วง 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด จะมีอาการบวมและปวดมากที่สุด แต่อาการบวมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 1-2 สัปดาห์ และรูปหน้าจะเริ่มเข้าที่สวยงามในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังผ่าตัด ส่วนกระดูกกรามจะเชื่อมติดกันสนิทใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ ในช่วงพักฟื้น คนไข้ควรดูแลความสะอาดในช่องปากอย่างเคร่งครัดและรับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลวเพื่อป้องกันผลกระทบต่อแผลผ่าตัด

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกรามให้ดีที่สุด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกรามเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้คนไข้หายไวขึ้นและลดโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อน ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด

สิ่งที่ควรเลี่ยงในช่วง 1 เดือนแรก

  • กิจกรรมกระทบใบหน้า งดไอหรือออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ต้องเกร็งหน้า รวมถึงเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ผิวหน้าทุกชนิด
  • เครื่องดื่มและสารเสพติด งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่เด็ดขาด

การใส่ผ้ารัดหน้า

  • ระยะเวลา ใส่ตลอด 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
  • วิธีใส่ ใส่ 1 ชั่วโมง แล้วถอดพัก 30 นาที (ยกเว้นตอนบ้วนปาก, กินข้าว, และนอน)
  • ถ้าบวมและแข็ง ถ้าหน้าบวมและแข็ง ให้ใช้ผ้าก๊อซที่ได้จากโรงพยาบาลสอดตรงที่บวมเพื่อกดไว้ แล้วรีบติดต่อโรงพยาบาลทันที (ถ้าไม่มีผ้าก๊อซ ใช้ผ้าขนหนูเล็กๆ แทนได้)

จัดการเลือดออกและวิธีประคบ

  • ข้อควรระวัง ห้ามประคบร้อนเด็ดขาด
  • เลือดออก ช่วง 2 สัปดาห์แรก อาจมีเลือดซึมทางปากหรือจมูกได้ ให้ใช้ผ้าก๊อซปิดจมูกและประคบเย็น ถ้าผ้าก๊อซชุ่มเลือดใน 10 นาที ให้รีบติดต่อโรงพยาบาลทันที
  • การประคบ ประคบเย็น 4 วันแรกหลังผ่าตัด จากนั้นค่อยประคบร้อน โดยเน้นประคบใต้ตาหรือบริเวณที่ยังบวม

จัดการอาการปวด

  • ยาจากโรงพยาบาล กินยาแก้ปวดที่ได้จากโรงพยาบาลให้ครบและต่อเนื่อง
  • ยาแก้ปวดเพิ่ม ถ้าปวดมาก กินยาแก้ปวดทั่วไปอย่างไทลีนอล หรือซาร่า เพิ่มได้ ไม่เกิน 1-2 เม็ดต่อวัน

การกินอาหาร

  • 1 เดือนแรก เน้นอาหารเหลวละเอียด (น้ำปั่น, ซุป) เสริมโปรตีนปั่น 3-4 มื้อเล็ก ๆ เลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องผูก (เช่น กล้วยดิบ, โจ๊ก, โยเกิร์ต, แลคโตส, อาหารไฟเบอร์สูง) ถ้าท้องเสีย ให้กิน Smecta และจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ (วันละ 1 ลิตร) เพื่อช่วยขับเสมหะ, ลดบวม, และดูแลช่องปาก
  • 2 สัปดาห์แรก งดอาหารมันและอาหารรสจัด
  • 2 เดือนแรก งดอาหารแข็งและอาหารเหนียวหนืด (เช่น ต๊อก, ลูกอม, หมากฝรั่ง, ปลาหมึก, หัวไชเท้า)

วิธีบ้วนปาก

  • ระยะเวลา บ้วนปากจนถึงวันรุ่งขึ้นหลังตัดไหมในปากเท่านั้น
  • น้ำยาบ้วนปาก ผสม Hexamedine 20cc กับน้ำกลั่น 1 ลิตร คนให้เข้ากันก่อนใช้ (ซื้อน้ำยาบ้วนปากเพิ่มได้ตามร้านขายยา)
  • วิธีบ้วน บ้วนปากทันทีที่ตื่นนอน และบ้วนทุก 2 ชั่วโมง แม้จะไม่ได้กินข้าว รวมถึงบ้วนหลังกินข้าวทุกมื้อ และบ้วนก่อนนอน

การอาบน้ำและล้างหน้า

  • เทปสมานแผล ให้ติดเทปกันน้ำก่อนอาบน้ำหรือสระผม แล้วดึงออกทันทีหลังอาบเสร็จ ถ้าเทปหลุดเพราะโดนน้ำ ห้ามจับแผล ให้เป่าลมเย็นให้แห้ง

อาการบวมและรอยช้ำ

  • รอยช้ำ รอยช้ำจะค่อย ๆ จางไปเองในประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เกิดรอยดำ ควรเลี่ยงแดด
  • ลดบวม ช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด การเดินบ่อย ๆ และนอนหนุนหมอนสูงประมาณ 30 องศา จะช่วยให้หายบวมเร็วขึ้น
  • ถ้าดูดไขมันใบหน้าร่วมด้วย งดก้มหน้า 1 สัปดาห์แรก เทปที่ติดจะหลุดเองใน 2-3 วันหลังผ่าตัด

โปรแกรมการดูแลและพักฟื้นหลังผ่าตัด

  • ประคบเย็นและประคบอุ่น
  1. ประคบเย็น บริเวณแก้มอย่างสม่ำเสมอในช่วง 1-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
  2. ประคบอุ่น เพื่อช่วยลดรอยเขียวช้ำได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • นอนยกศีรษะสูง ในช่วง 1 สัปดาห์แรก หลังผ่าตัดเพื่อช่วยลดอาการบวม
  • รับประทานยา ทานยาแก้ปวดและยาลดบวมตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณกรามอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์แรก
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 เดือน หลังผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • รักษาความสะอาดช่องปาก แปรงฟันอย่างเบามือและบ้วนน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปากหลังอาหารทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • รับประทานอาหาร ในช่วงเดือนแรกให้ทานอาหารอ่อนที่ไม่ต้องใช้แรงบดเคี้ยว เช่น ข้าวต้ม หมูสับ ไข่ลวก มันบด ค่อย ๆ เปลี่ยนไปทานอาหารปกติเมื่อแผลเริ่มหายดี
  • บริหารกราม พยายามอ้าปากและขยับกรามเบา ๆ เพื่อป้องกันข้อต่อขากรรไกรฝืดและกรามยึด

หลังตัดกราม กระดูกจะเป็นอย่างไร แข็งแรงไหม

หลังผ่าตัดลดกราม กระดูกกรามยังคงแข็งแรงดี ศัลยแพทย์จะตัดกระดูกบางส่วนและยึดด้วยเหล็ก/สกรู ทำให้กระดูกสมานและฟื้นตัวใน 6 สัปดาห์ถึง 3 เดือน ช่วงแรกต้องรับประทานอาหารเหลว/อ่อน และศัลยแพทย์จะใช้ยางยึดขากรรไกรไว้ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้กระดูกยึดติดกัน ความแข็งแรงของกระดูกขึ้นอยู่กับเทคนิคผ่าตัด ความชำนาญศัลยแพทย์ อายุ และการดูแลหลังผ่าตัด โดยทั่วไปกระดูกจะแข็งแรงสมบูรณ์ใน 3-6 สัปดาห์ แต่อาจใช้เวลาถึง 3 เดือนในบางราย

โรงพยาบาลอียู มีจุดเด่นอย่างไร

ความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกใบหน้า

  • เน้นการวิจัยและพัฒนา รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ด้านกระดูกใบหน้าอย่างต่อเนื่อง
  • ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลในการรักษาผู้ป่วยต่างชาติ

ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบใบหน้า

  • ศัลยแพทย์ช่องปากและขากรรไกรจากโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม สามารถผ่าตัดแก้ไขปัญหาขากรรไกรและเพื่อความงามของใบหน้าได้พร้อมกัน

เทคนิคการผ่าตัดเฉพาะทางของอียู

  • พิจารณามิติของใบหน้าแบบ 360 องศา เพื่อสร้างความสมมาตรอย่างมีมิติ
  • ใช้เทคนิคการผ่าตัดพิเศษแบบ IVRO และ SSRO เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

มาตรฐานการดูแลผู้ป่วยระดับสูง

  • เน้นการดูแลผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ตั้งแต่ให้คำปรึกษาจนถึงหลังผ่าตัด
  • ใช้ระบบ 1:1 ในการให้คำปรึกษา การตรวจร่างกาย และการวางแผนการรักษาอย่างละเอียด
  • มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบวงจรและเครื่องมือวางยาสลบมาตรฐานโลก เพื่อความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงเครื่องวัดสัญญาณชีพจร Bionet BM5

รีวิวคนไข้จริง

ศัลยแพทย์โครงหน้าที่อียู

ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกรอียู ศัลยแพทย์คิมจงยุน และชินฮีจิน มีความเชี่ยวชาญอย่างสูงและมุ่งมั่นพัฒนาการผ่าตัดกรามอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขทั้งปัญหาด้านความงาม และการใช้งานไปพร้อมกัน จึงมั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน

สรุป

การผ่าตัดกรามเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนที่อยากมีใบหน้าเรียวสวยขึ้น และยังช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานขากรรไกรได้พร้อมกัน แม้จะมีการผ่าตัดใด ๆ ก็ย่อมมีความเสี่ยง แต่ถ้าทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคนิคที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะคุ้มค่าและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้ได้อย่างถาวร

หากคนไข้กำลังคิดจะผ่าตัดกราม สิ่งสำคัญคือต้อง ปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าเหมาะสมกับคนไข้หรือไม่ และวางแผนการรักษาที่ดีที่สุด โรงพยาบาลศัลยกรรมขากรรไกรและโครงหน้าอียู พร้อมให้บริการโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยเทคนิคการผ่าตัดเฉพาะทาง และมาตรฐานการดูแลระดับสากล เพื่อให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านความสวยงามและการใช้งาน