ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด คืออะไร? ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยในครั้งเดียว

อยากมีใบหน้าเรียวสวยได้รูปสมใจในครั้งเดียว โดยไม่ต้องทำศัลยกรรมหลายครั้ง? การศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด อาจเป็นคำตอบที่คนไข้กำลังมองหา ศัลยกรรมปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งหน้าผาก โหนกแก้ม และกราม ให้คนไข้มีใบหน้าที่สมส่วน มีมิติ และดูอ่อนเยาว์ลง บทความนี้จะพาคนไข้ไปทำความรู้จักกับการศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดอย่างละเอียด ว่าคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง และจะช่วยเนรมิตใบหน้าในฝันของคนไข้ได้อย่างไร

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด คืออะไร

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด คือการผ่าตัดเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้สัดส่วนที่สมดุลและอ่อนหวานขึ้น โดยมุ่งเน้นการแก้ไข 3 จุดหลักพร้อมกัน ได้แก่ การลดขนาดโหนกแก้ม การลดขนาดกราม และการปรับปลายคาง เพื่อแก้ไขปัญหาคางสั้น ยาว หรือไม่สมส่วน ให้ใบหน้าดูเรียวเล็กเป็นรูปตัว V อย่างเป็นธรรมชาติ 

การทำศัลยกรรมนี้ช่วยให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่สมดุลและดูอ่อนหวานขึ้นในครั้งเดียว โดยไม่ต้องใช้สิ่งแปลกปลอม จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กและดูดีขึ้นอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริเวณที่ผ่าตัดมีเส้นประสาทสำคัญหลายตำแหน่ง เทคนิคการผ่าตัดจึงมีความละเอียดและต้องอาศัยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด เหมาะกับใคร

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด เหมาะกับใคร

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและสวยงามขึ้นอย่างถาวร โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดจะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมดุลและสวยงามขึ้น โดยเน้นการแก้ไขปัญหาหลัก ๆ ดังนี้

จุดเด่นของศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด เหมาะกับใคร

การศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดเป็นการผ่าตัดที่ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้สวยงามและสมดุลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

1. ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยทุกมิติ

ศัลยกรรมนี้จะช่วยปรับทั้งโหนกแก้ม กราม และคาง ไปพร้อมกัน ทำให้ใบหน้าของคนไข้ดูเรียวเล็ก ละมุน และเป็นธรรมชาติมากขึ้น รับรองว่าคนไข้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในทุกมุมมอง

2. แก้ไขปัญหาโครงหน้าที่ไม่สมส่วนได้ครบวงจร

ไม่ว่าจะเป็นปัญหากรามใหญ่ เหลี่ยม โหนกแก้มสูง คางไม่สมดุล หรือคางทู่ การผ่าตัด 3 จุดนี้สามารถแก้ไขได้ครบถ้วน ทำให้ใบหน้าของคนไข้ดูสมส่วนและได้รูปทรงที่ต้องการ

3. วางแผนแม่นยำ ประหยัดเวลาพักฟื้น

เมื่อทำพร้อมกันทั้ง 3 จุด การวางแผนจะแม่นยำกว่าการทำทีละส่วน และช่วยลดความไม่สมดุลที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังประหยัดเวลาพักฟื้น เพราะคนไข้พักฟื้นเพียงครั้งเดียวแต่ได้ผลลัพธ์ครบทุกจุด

4. ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมั่นใจขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ใบหน้าของคนไข้ดูอ่อนเยาว์ มีมิติ และสมส่วนมากขึ้น ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนโครงหน้าให้สวยงามและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง

5. ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการวางแผนขั้นสูง

ศัลยแพทย์จะวางแผนการผ่าตัดอย่างละเอียดโดยใช้ภาพถ่าย 3D CT scan และ X-ray เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำตรงตามความต้องการของคนไข้

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด มีอะไรบ้าง

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด คือการปรับโครงสร้างใบหน้าหลัก 3 ส่วน เพื่อให้ใบหน้าของคนไข้ดูเรียวสวยและสมส่วนมากขึ้น โดยแต่ละส่วนจะมีการผ่าตัดดังนี้

ศัลยกรรรมลดขนาดกราม

เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับรูปทรงกรามให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้ โดยศัลยแพทย์จะตัดกระดูกกรามตั้งแต่บริเวณใต้หูลงมา นอกจากนี้ หากคนไข้มีกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่เกินไป ก็สามารถลดขนาดลงได้เช่นกัน เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. ออกแบบรูปทรงกรามให้เหมาะสมกับรูปหน้าแต่ละบุคคล
  2. ตัดกระดูกกรามใต้ใบหูเป็นเส้นยาวเพื่อป้องกันเส้นกรามขรุขระ
  3. อาจผ่าตัดเพื่อลดขนาดของขากรรไกรล่างและกล้ามเนื้อกรามได้ ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง
  4. การผ่าตัดกล้ามเนื้อมัดกรามจะทำหากกล้ามเนื้อใหญ่ผิดปกติ
  5. ใช้ยาสลบในการผ่าตัด ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  6. พักฟื้นประมาณ 7 วัน

ศัลยกรรรมลดขนาดโหนกแก้ม

สำหรับการลดโหนกแก้ม ศัลยแพทย์จะทำการตัดกระดูกโหนกแก้มในมุม 45 องศา จากนั้นจะหมุนและย้ายกระดูกเพื่อให้โหนกแก้มดูเล็กลงและสมดุลกับใบหน้ามากขึ้น ที่สำคัญคือจะมีการยึดด้วยหมุดไททาเนียมสองชั้น เพื่อความปลอดภัยและความแข็งแรง

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. ออกแบบให้เข้ากับรูปหน้าและพิจารณาความนูนของโหนกแก้ม
  2. ตัดกระดูกโหนกแก้มแบบ L ที่มุม 45 องศา
  3. หมุนและย้ายกระดูกโหนกแก้มเข้าไปด้านในเพื่อให้ใบหน้าเรียวขึ้น
  4. จัดเรียงกระดูกและยึดด้วยหมุดไททาเนียมสองชั้นเพื่อความปลอดภัยและแน่นหนา
  5. หากจำเป็นจะผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มออกเพื่อให้ใบหน้าเรียวและไม่หย่อนคล้อย
  6. ใช้ยาสลบและพักฟื้นประมาณ 7 วัน

ศัลยกรรรมปลายคาง

ส่วนสุดท้ายคือการปรับรูปทรงคาง โดยศัลยแพทย์จะตัดและเคลื่อนย้ายกระดูกคาง ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับความยาว ความกว้าง หรือระดับความยื่นของคาง เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและได้สัดส่วนที่สวยงามเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. ออกแบบการผ่าตัดกระดูกคางส่วนกลางในรูปแบบ T ตามลักษณะใบหน้า
  2. ตัดและเคลื่อนย้ายกระดูกคางเพื่อปรับรูปทรงและความยาว
  3. ปรับและจัดเรียงกระดูกให้เรียบเนียน ไม่มีขรุขระ
  4. ใช้เทคโนโลยี 3D-CT เพื่อระบุตำแหน่งเส้นประสาทและป้องกันความเสียหาย
  5. ใช้ยาสลบและพักฟื้นประมาณ 7 วัน

วัสดุและวิธีการผ่าตัดที่ปลอดภัยในการศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด

วัสดุที่ใช้ในการผ่าตัด

วิธีการผ่าตัด

ยิ่งตัดกระดูกออกเยอะ ยิ่งดี จริงหรือไม่

การผ่าตัดโครงหน้าไม่ได้หมายความว่าตัดกระดูกเยอะแล้วจะดี เพราะการลดขนาดกระดูกมากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าไม่สมดุล, ผิวหย่อนคล้อย, ใบหน้าดูผอมหรือแก่กว่าวัย, และเพิ่มความเสี่ยงต่อ ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การติดเชื้อ หรือเส้นประสาทเสียหาย นอกจากนี้ กระดูกยังอาจงอกใหม่หรือเปลี่ยนรูปร่างในระยะยาวทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

หลังผ่าตัดผิวคล้อยหรือไม่?

หลังผ่าตัดโครงหน้า เช่น การทุบโหนก ตัดกราม หรือทำวีไลน์ บางรายอาจประสบปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือหน้าคล้อย โดยเฉพาะหากมีการตัดกระดูกออกมากเกินไป หรือในผู้สูงอายุที่มีผิวหนังยืดหยุ่นน้อย เนื่องจากเมื่อโครงสร้างกระดูกลดขนาดลง ผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อนจะขาดการพยุง ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยบริเวณขากรรไกรและคางได้

ข้อมูลการศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด ที่ควรรู้

ข้อควรรู้ก่อนทำศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด

หากคุณตัดสินใจทำศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด มีข้อมูลสำคัญบางอย่างที่คุณควรทราบเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดมีอะไรบ้าง

การผ่าตัดปรับโครงหน้า 3 จุด ไม่ว่าจะเป็น ยุบโหนกแก้ม, ตัดกราม, หรือเลื่อนคาง เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูกันว่ามีอะไรที่คุณต้องทำบ้าง

การดูแลตัวหลังศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังการผ่าตัดศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 1 เดือนแรก

การใส่ผ้ารัดหน้า

การจัดการกับเลือดออกและการประคบ

การจัดการกับอาการปวด

การรับประทานอาหาร

วิธีบ้วนปาก

การอาบน้ำและล้างหน้า

อาการบวมและรอยช้ำ

โปรแกรมการดูแลและพักฟื้นหลังศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุด

1. ป้องกันตั้งแต่ก่อนเริ่ม

 อียูเตรียมพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและออกแบบการผ่าตัดมาเป็นอย่างดี เพื่อช่วยลดรอยช้ำและอาการบวมให้เหลือน้อยที่สุดตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเข้าห้องผ่าตัดด้วยซ้ำ

2. ดูแลอย่างใกล้ชิดทันทีหลังผ่าตัด

หลังผ่าตัด อียูจะจัดเตรียมยาให้คุณทันที พร้อมใช้เลเซอร์เฉพาะทาง และฉีดยาที่ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้คุณฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น

3. สอนวิธีดูแลตัวเองอย่างละเอียด

 อียูจะอธิบายเรื่องยาและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดให้คุณเข้าใจอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้อย่างมั่นใจ โดยจะมียาแก้ปวด, อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ, ยาทาแผล และหน้ากากอนามัยเตรียมไว้ให้ครบครัน

4. ลดอาการบวมด้วยอุปกรณ์พิเศษ

 อียูมีอุปกรณ์ดูแลตัวเองที่รวมถึงที่ประคบเย็น ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดอาการบวมของคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

5. ปรึกษาได้ตลอด ไม่ต้องกังวล

 อียูมีบริการพูดคุยปรึกษาแบบตัวต่อตัว (1:1) และเบอร์โทรฉุกเฉินให้คุณติดต่อได้ตลอดเวลา เพื่อให้คุณคลายความกังวลและรู้สึกอุ่นใจที่สุดในทุกขั้นตอน

ทำไมต้องเลือกศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดที่โรงพยาบาลอียู

โรงพยาบาลอียู มีจุดเด่นอย่างไร

รีวิวคนไข้จริง

ศัลยแพทย์โครงหน้าที่อียู

ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมโครงหน้าและขากรรไกรที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี นำโดย Dr. Kim Jong Yun และ Dr. Shin Hee Jin ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ของ อียูมีความเชี่ยวชาญสูงและพร้อมให้การดูแลคุณอย่างดีที่สุด

สรุป

ศัลยกรรมโครงหน้า 3 จุดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้สวยงามและสมส่วนอย่างครบถ้วนในครั้งเดียว โดยการรวมการผ่าตัดทั้งลดโหนกแก้ม ตัดกราม และปรับปลายคาง จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเรียวสวยในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการผ่าตัดนี้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการวางแผนเป็นอย่างมาก

โรงพยาบาลอียู โดดเด่นด้วยเทคนิค Mini-MAX ที่ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น การใช้ระบบ CT สแกน 3 มิติในการวางแผนที่แม่นยำ และทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ซึ่งพร้อมให้การดูแลแบบใกล้ชิดและใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุด