จากสาวเมียนมาร์สู่ใบหน้าในฝัน รีวิวละเอียดผ่าตัดขากรรไกรและ V-line

รีวิวผ่าตัดขากรรไกร สาวเมียนมาร์ ที่ eu

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ คือฉันมีปัญหาเรื่องคางยื่น (Underbite) กับหน้าไม่สมมาตรมานานแล้วค่ะ มันทำให้ฉันเคี้ยวและตัดเนื้อได้ไม่ถนัดเลย เพราะฟันมันสบกันไม่ดี แล้วที่สำคัญคือ ฉันไม่ค่อยมั่นใจเวลาคุยกับคนอื่นหรือยิ้มเลยค่ะ

ก็เลยลองไปปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านขากรรไกรและจัดฟันในพม่ามา 2-3 ท่านค่ะ ทุกท่านแนะนำให้ผ่าตัดขากรรไกรเพื่อแก้ปัญหานี้ แล้วก็แนะนำให้ไปทำที่เกาหลีค่ะ เพราะที่นั่นเรื่องศัลยกรรมและความปลอดภัยถือว่าก้าวหน้าและน่าเชื่อถือมาก

ฉันกับพี่ชาย (ที่เป็นหมอเหมือนกัน) ก็เลยช่วยกันหาข้อมูลทางออนไลน์กันยกใหญ่ จนเจอคลินิกที่โซล 2-3 แห่งที่ดูแล้วน่าจะทำศัลยกรรมขากรรไกรคู่ (Double jaw surgery) ได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ

หลังจากนั้น ฉันก็ไปที่คลินิก EU Dental ค่ะ ได้ปรึกษากับคุณหมอ Kim ซึ่งใจดีมาก ส่วนคุณ Tracy ที่เป็นที่ปรึกษาภาษาอังกฤษก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ คุณหมอ Kim ดูรายละเอียดในปากของฉัน ทั้งฟันและตำแหน่งขากรรไกรอย่างละเอียดเลยค่ะ

คุณหมอ Kim อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับการผ่าตัดขากรรไกรคู่และขั้นตอนที่ฉันต้องทำแบบเจาะลึกมาก ๆ แล้วก็แนะนำว่า ฉันควรจะจัดฟันก่อนผ่าตัด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เพราะฟันของฉันค่อนข้างซ้อนกันเยอะเลยค่ะ
การปรึกษากับคุณหมอ Kim เป็นไปได้ด้วยดี แถมรูปก่อนและหลังการผ่าตัดก็ดูน่าสนใจมาก ทำให้ฉันกับพี่ชายตัดสินใจเลือกที่ EU Dental ค่ะ คุณหมอ Kim เลยให้แผนการผ่าตัดและแผนการจัดฟันที่ต้องไปทำต่อที่พม่าค่ะ ฉันก็เลยกลับไปเริ่มจัดฟันตามที่ท่านแนะนำทันทีเลยค่ะ

หลังจากที่จัดฟันมาปีกว่าๆ (1 ปีครึ่ง) ในที่สุดฟันของฉันก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้นและพร้อมสำหรับการผ่าตัดขากรรไกรคู่แล้วค่ะ! รู้สึกดีมากที่ได้กลับมาที่โซลอีกครั้งและได้เจอกับคุณหมอ Kim และทีมงานของ EU Dental ทุกคน

คลินิกยังดูเหมือนเดิมเลยค่ะ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือคนไข้เยอะขึ้นมากกกก ดูคึกคักกว่าเมื่อสองปีก่อนเยอะเลยค่ะ ฉันได้ตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดแบบครบชุด ทั้งตรวจเลือด, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และเอกซเรย์ปอด ผลตรวจก็ออกมาดีทุกอย่าง ทำให้มั่นใจว่าพร้อมแล้วสำหรับการผ่าตัดค่ะ

ก่อนจะถึงวันจริง ฉันได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอ Kim อีกครั้ง แล้วก็พิมพ์ปากเพื่อทำแผ่นเวเฟอร์ (Wafer) สำหรับใส่หลังผ่าตัดด้วยค่ะ

วันสำคัญที่รอคอย
บอกตรง ๆ ว่าทั้งตื่นเต้นแล้วก็แอบกังวลนิด ๆ ค่ะ แต่โชคดีที่พี่ชายกับครอบครัวซัพพอร์ตฉันดีมาก ๆ ฉันพักกันที่ Lex Hotel ซึ่งเดินไปคลินิกแค่ 3 นาที สะดวกสุด ๆ เลยค่ะ
พอถึงวันผ่าตัด ฉันต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก็เลยไม่กินไม่ดื่มอะไรเลยตั้งแต่เที่ยงคืน พอไปถึงคลินิกตอน 12:30 น. ทีมงานก็ต้อนรับอย่างอบอุ่น ชวนคุยเพื่อให้ฉันหายกังวลค่ะ จากนั้นก็ให้ฉันเก็บของในล็อกเกอร์แล้วก็เปลี่ยนชุดค่ะ

ก่อนเข้าห้องผ่าตัด
เสร็จแล้วเขาก็ถ่ายรูปและสัมภาษณ์ฉันเพื่อเก็บข้อมูล จากนั้นทีมงานก็อธิบายผลลัพธ์และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดอย่างละเอียด ฉันต้องเซ็นเอกสารยินยอมทั้งแบบลายลักษณ์อักษรและแบบพูดค่ะ
ก่อนเข้าห้องผ่าตัด ฉันได้คุยกับคุณหมอ Kim อีกครั้ง แล้วก็อธิบายแผนการผ่าตัดซ้ำอีกรอบ ฉันเลยบอกความต้องการและโชว์รูปให้ดูว่าอยากให้หน้าออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งคุณหมอก็อธิบายให้เห็นภาพว่าผลลัพธ์ที่ได้น่าจะออกมาเป็นยังไงบ้าง พอคุยเสร็จก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ พร้อมที่จะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว

ฉันได้เข้าห้องผ่าตัดตอนประมาณ 14:30 น. พยาบาลฉีดยาเข้าที่แขนขวาฉันตรงข้อศอก ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นยาสลบ จากนั้นฉันก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยค่ะ

ฟื้นจากยาสลบ
ฉันตื่นขึ้นมาอีกทีตอนที่เจ้าหน้าที่ในห้องผ่าตัดตบแขนเบา ๆ ค่ะ ตอนนั้นรู้สึกมึน ๆ งง ๆ เหมือนหลับไปนานมาก มองนาฬิกาอีกทีก็เกือบ ๆ 1 ทุ่มแล้วค่ะ พอได้สติครบถ้วน ฉันก็เดินกลับไปที่ห้องพักได้เองเลยค่ะ
พอถึงห้องก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่ปรับเอนประมาณ 45 องศาค่ะ ตอนนั้นมีสายยางเสียบจมูกเพื่อให้หายใจสะดวก แต่ก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย นอกจากนี้ยังมีสายสวนปัสสาวะด้วย ทำให้ไม่ต้องลุกไปห้องน้ำเลยค่ะ พยาบาลบอกว่าฉันดื่มน้ำได้ตอนเที่ยงคืนครึ่งค่ะ

อาการหลังผ่าตัด
บนใบหน้ามีผ้าพันแผลรัดไว้แน่นเลยค่ะ แต่โชคดีที่ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมาก แค่มึนหัวกับกระหายน้ำสุด ๆ ค่ะ มีเลือดและน้ำลายไหลซึมออกมาจากมุมปากบ้าง ต้องคอยเช็ดด้วยทิชชูเป็นระยะ แล้วก็ต้องกลืนเลือดกับน้ำลายลงคอเท่าที่ทำได้ค่ะ

ตอนนั้นจมูกฉันตันจากเลือดกับน้ำมูกค่ะ เลยบอกพยาบาลไป เธอก็เข้ามาฉีดสเปรย์จมูกให้ทันที ทำให้หายใจสะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ นอกจากนี้พยาบาลยังฉีดยาปฏิชีวนะกับยาแก้ปวดให้ด้วย

คุณหมอ Kim เข้ามาตรวจดูอาการของฉันและบอกว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดีมากค่ะ พอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะเลยค่ะ จากนั้นฉันก็หลับไปอีกรอบค่ะ

อาหารเช้าแบบใหม่
เช้าวันรุ่งขึ้น พยาบาลก็เอาเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพที่เรียกว่า Welllife มาให้ฉันเป็นอาหารเช้าค่ะ แต่การกินไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฉันอ้าปากได้ไม่เยอะ เลยต้องใช้ไซริงค์ขนาด 50cc กับสายยางเล็ก ๆ ค่อย ๆ ป้อนเข้าไปค่ะ
ระหว่างนั้นฉันก็ส่องกระจกดูหน้าตัวเองในมือถือ หน้าบวมเป่งเหมือนแตงโมเลยค่ะ แต่พอสังเกตดี ๆ ก็เห็นว่าฟันบนกับฟันล่างมันสบกันพอดีเป๊ะ เป็นเส้นเดียวกันแล้วค่ะ โอ้โห…ความรู้สึกนี้มันดีจริง ๆ ค่ะ

หลังจากนั้น พยาบาลก็มาถอดสายยางที่จมูกกับสายสวนปัสสาวะออกให้ ทำให้ฉันรู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะเลยค่ะ แล้วเธอก็พาฉันไปทำเลเซอร์เพื่อลดบวมค่ะ ฉันไม่รู้สึกหิวเลยเพราะมีน้ำเกลือให้ทางสายน้ำเกลืออยู่แล้วค่ะ
ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทาย

หลังจากนั้น ฉันก็พยายามดื่มน้ำและ Welllife ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ โชคดีมากที่มีพี่ชายคอยอยู่ข้างๆ ตลอด เลยทำให้วันที่ 1 และวันที่ 2 ผ่านไปได้แบบไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ

พอถึงวันกลับ คุณหมอ Kim ก็มาเช็กการสบฟันของฉันและสอนวิธีใส่แผ่น Wafer ค่ะ พอกลับมาถึงโรงแรม ฉันก็นอนพักยาว ๆ เลยค่ะ ทั้งหลับ ทั้งดื่มน้ำและผงอาหารเสริมแทนมื้ออาหารไปเรื่อย ๆ

ความรู้สึกหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
ตอนนี้ก็ครบ 7 วันหลังผ่าตัด แล้วค่ะ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี การสบฟันของฉันดีขึ้นมาก แม้จะยังเคี้ยวอาหารไม่ได้ก็ตาม ส่วนหน้าก็ดูสมมาตรขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

ถึงตอนนี้จะยังบอกไม่ได้เป๊ะ ๆ ว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง เพราะยังเหลืออาการบวมอยู่บ้าง แต่ฉันรู้สึกได้เลยว่ามันจะออกมาดีแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณคุณหมอ Kim และทีมงานของ EU Dental ทุกคนจากใจจริง ที่ทำให้การผ่าตัดครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ฉันตัดสินใจไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่เลือกคลินิกนี้ค่ะ

สรุปรายการศัลยกรรมที่ทำ
ศัลยกรรมหลัก
ศัลยกรรมขากรรไกรคู่ (Double Jaw Surgery) – เป็นการผ่าตัดทั้งขากรรไกรบนและล่างเพื่อแก้ปัญหาคางยื่น (Underbite) และหน้าไม่สมมาตร
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การจัดฟันเป็นระยะเวลา 1 ปีครึ่ง เพื่อเตรียมตำแหน่งฟันให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด