มีปัญหาปากยื่น คางหลุบ ยิ้มเห็นเหงือก ผ่าตัดขากรรไกรควบคู่กับวีไลน์

แก้ปัญหาปากยื่น คางหลุบ ยิ้มเห็นเหงือก ด้วยการผ่าตัดขากรรไกร

ย้อนกลับไปตอนเด็ก ๆ ความไม่มั่นใจเรื่องหน้าตาเป็นสิ่งที่ติดตัวฉันมาตลอด ฉันมักจะบอกตัวเองเสมอว่า ‘ไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยทำศัลยกรรมขากรรไกร’ แต่ก็ผัดมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันได้ไปเที่ยวต่างประเทศ และสิ่งที่เห็นในรูปถ่ายและวิดีโอมันทำให้ฉันผิดหวังมาก เพราะในสถานที่สวยงาม แต่ฉันกลับรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของตัวเองยังไม่สมบูรณ์แบบ ฉันตระหนักได้ว่าไม่อยากให้ความทรงจำดี ๆ ต้องถูกบดบังด้วยความรู้สึกนี้อีกแล้ว

พอดีกับช่วงโควิด-19 ที่ทำให้ชีวิตช้าลง ฉันจึงได้มีโอกาสหยุดพักจากการเรียน และนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญ ฉันตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเผชิญหน้ากับความไม่มั่นใจของตัวเองอย่างจริงจัง ฉันเริ่มต้นด้วยการนัดปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมช่องปากและใบหน้า เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

สิ่งที่กังวล

ฉันมีปัญหาเรื่องปากยื่น คางหลุบ และเวลายิ้มเห็นเหงือกเยอะ ทำให้ไม่มั่นใจในรูปหน้าด้านข้างเลยค่ะ แม้แต่ตอนยิ้มแบบหุบปากก็ยังรู้สึกว่ารูปทรงปากมันดูแปลก ๆ ทำให้ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ผลที่ตามมาก็คือฉันจะประหม่ามากทุกครั้งที่มีคนจะถ่ายรูปให้ แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงการถ่ายรูปไปเลยค่ะ อีกเรื่องที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือมีคนทักว่าฉันดูหน้าบึ้งหรือไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพอถึงจุดหนึ่งฉันก็เริ่มชินกับคำพูดพวกนี้ไปเองแล้วค่ะ มันก็เป็นความรู้สึกที่ทั้งดีใจและเศร้าใจในเวลาเดียวกันนะ ฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันสั่งสมมาเป็นความไม่มั่นใจของฉันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาค่ะ

ทำไมถึงเลือก EU Oral & Maxillofacial Surgery

มีคนรอบตัวหลายคนเลยค่ะที่เคยทำศัลยกรรมขากรรไกรคู่ รวมถึงน้องสาวของฉันด้วย จริง ๆ แล้วฉันรู้จักคนหนึ่งที่เคยผ่าตัดที่โรงพยาบาล EU ด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะด้วยนิสัยส่วนตัว ทำให้ฉันใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากเวลาเลือกคลินิก ก่อนที่จะมาที่ EU Oral & Maxillofacial Surgery ฉันรู้สึกว่าคลินิกนี้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจจะมาปรึกษาเยอะมากเลยค่ะ ซึ่งมันทำให้ฉันประทับใจ เพราะคิดว่าพนักงานที่นี่น่าจะใส่ใจความต้องการของคนไข้ด้วย

พอได้มาปรึกษาจริง ๆ ทั้งคุณหมอและที่ปรึกษาทุกคนก็ดูเป็นมืออาชีพมาก ๆ ค่ะ ทำให้ฉันตัดสินใจว่าต้องทำที่นี่แหละ แน่นอนว่าการที่รู้จักคนที่เคยทำที่ EU ก็มีผลต่อการตัดสินใจของฉันไม่น้อยเลยค่ะ แต่สุดท้ายแล้ว ฉันตัดสินใจเลือกผ่าตัดที่ EU จากประสบการณ์ตรงของตัวเองที่ได้รับจากการมาปรึกษาที่นี่ค่ะ

ไทม์ไลน์การผ่าตัด

วันที่ผ่าตัด

พอตื่นขึ้นมาหลังจากการผ่าตัด สิ่งแรกที่รู้สึกคือความง่วงและอาการมึน ๆ จนไม่สามารถคิดถึงเรื่องการดื่มน้ำได้เลยค่ะ โชคดีที่ช่วง 6 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ฉันยังหายใจได้ปกติ แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปทันทีค่ะ การหายใจเริ่มรู้สึกติดขัด ถึงแม้จะพยายามหายใจอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่มันก็ยังคงสร้างความหงุดหงิดใจไม่น้อยเลยค่ะ นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกหนาวตลอดเวลา ต้องใช้ผ้าห่มคลุมตัวไว้ให้ความอบอุ่น ส่วนการดื่มน้ำก็เป็นอีกความท้าทายหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่ดื่ม ฉันรู้สึกเหมือนจะอาเจียนออกมา เลยต้องจิบแค่พอให้ร่างกายไม่ขาดน้ำเท่านั้นค่ะ

หลังผ่าตัดวันที่ 2

หลังผ่าตัดวันที่สอง คุณหมอเข้ามาดูดเสมหะในจมูกและทำความสะอาดแผลผ่าตัดให้ค่ะ ซึ่งหลายคนบอกว่าสบายมาก และมันก็จริงในตอนนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานอาการคัดจมูกก็กลับมาอีกค่ะ ฉันพยายามพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่ลืมที่จะดื่มน้ำกับนมทดแทนมื้ออาหาร ‘นูแคร์’ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ มีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นในหูข้างขวาของฉันตลอดเวลา แต่พอเห็นรีวิวของคนอื่นที่เจอปัญหาเดียวกัน ก็ทำให้สบายใจขึ้นและไม่กังวลแล้วค่ะ

แม้ว่าจะไม่มีอาการปวดหรือเจ็บปวดใด ๆ หลังผ่าตัด แต่การหายใจยังคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริง ๆ ค่ะ ฉันต้องปรับเตียงนอนให้ชัน 90 องศาตลอดเวลาเลยค่ะ อยากให้ตัวเองหายจากอาการคัดจมูกและเสียงแปลก ๆ ในลำคอเร็ว ๆ จังเลย

หลังผ่าตัดวันที่ 4

ฉันคิดว่าอาการบวมเริ่มถึงจุดสูงสุดตั้งแต่วันที่สามหลังการผ่าตัดค่ะ ถ้าฉันพยายามพูดเยอะ ๆ ก็จะเริ่มไอและมีเลือดออกจากจมูกเล็กน้อย โชคดีที่เลือดไม่ได้ไหลออกมามากนัก ทำให้ฉันยังสามารถออกไปเดินเล่นและแวะคาเฟ่ได้ เพื่อนของฉันซื้อครีมลดรอยฟกช้ำมาให้ด้วย ฉันจึงเริ่มใช้ครีมนั้นควบคู่ไปด้วยค่ะ

ในตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกเจ็บจากแผ่นเวเฟอร์ที่อยู่ในปากแล้วค่ะ มันรู้สึกน่าหงุดหงิดมาก เพราะมันเหมือนมีอะไรมากดประทับอยู่ข้างในปากตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีเสียงหึ่ง ๆ ดังขึ้นในหูข้างขวา ซึ่งแม้จะทำให้รู้สึกกังวลบ้าง แต่ฉันก็หวังว่ามันจะค่อย ๆ ดีขึ้นในไม่ช้าค่ะ

หลังผ่าตัดวันที่ 14

วันนี้ก็ครบ 2 สัปดาห์พอดีค่ะ ที่ได้ผ่าตัดมาและก็ได้ไปเอาไหมออกเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เอาไหมออกรู้สึกเจ็บและตึงตรงบริเวณที่เคยรู้สึกตึงเวลาเรายิ้มก่อนผ่าตัดเลยค่ะ หลังจากเอาไหมออกหน้าก็รู้สึกปวดตุบ ๆ แต่ก็โอเคค่ะ ส่วนรอยช้ำก็ยังมีอยู่บ้าง แต่คิดว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะหายแล้วค่ะ

หลังผ่าตัดมาตลอด ฉันนอนในท่านั่ง 90 องศาเลย แต่ช่วงนี้เริ่มปรับท่านอนได้สบายขึ้นแล้วค่ะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าอาการบวมที่หน้าจะเริ่มยุบลงบ้างแล้ว แต่ในปากยังบวมอยู่เลยค่ะ ก็เลยยังกังวลอยู่ตลอดเวลาเลย

ตอนนี้สิ่งที่อยากกินที่สุดคือราเม็งค่ะ คิดถึงจนต้องรีบไปฝึกบริหารขากรรไกรทันทีที่ตื่นเลยค่ะ หวังว่าพอครบ 1 เดือนหลังผ่าตัดจะได้กินราเม็งสักที หวังว่าอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะผ่านไปเร็วเหมือนช่วง 2 สัปดาห์แรกเลยค่ะ

หลังผ่าตัดวันที่ 28

วันนี้ฉันลองกินปลาแผ่นทอดที่หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ดูค่ะ แต่พอเคี้ยวไปก็รู้สึกเจ็บเหงือกขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสกรูข้างในปากที่เริ่มระคายเคืองหรือเปล่า น้องสาวของฉันที่เคยทำศัลยกรรมขากรรไกรคู่เหมือนกัน เห็นฉันกินก็ตกใจและถามด้วยความประหลาดใจว่า ‘กินแบบนี้ได้ยังไงในตอนนี้!’ ฉันคิดว่าการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลจริง ๆ ค่ะ

ฉันกับน้องสาวได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การฟื้นตัวหลังผ่าตัดกัน ซึ่งมันค่อนข้างแตกต่างกันมากเลยค่ะ น้องสาวบอกว่าทนไม่ไหวแล้วและไม่อยากทำศัลยกรรมนี้อีก แต่สำหรับฉันกลับรู้สึกว่ายังพอรับมือได้ ตอนนี้เริ่มได้ออกไปเจอเพื่อน ๆ บ้างแล้วค่ะ สนุกมากที่ได้เห็นปฏิกิริยาของเพื่อน ๆ ที่เห็นหน้าตาของฉันหลังการผ่าตัด

หลังผ่าตัดวันที่ 50

ฉันเคยสงสัยว่าเมื่อไหร่เวลาหลังการผ่าตัดจะผ่านไปสักที แต่ในที่สุดวันนี้ก็ครบ 50 วันแล้วค่ะ รู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมาก ๆ เลย ถึงแม้ว่าฉันจะยังคงทานได้แค่อาหารที่กำหนดไว้ แต่ก็ทานได้ดีค่ะ น้ำหนักจึงไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเวลาผ่านไปถึง 50 วันหลังการผ่าตัด ฉันเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้นค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคางที่เคยหลุบเข้าไป ตอนนี้ดูเด่นชัดขึ้นมามากเลยค่ะ มีหลายคนทักฉันว่าอาการบวมยุบลงหมดแล้ว แต่เพราะนี่เป็นประสบการณ์การผ่าตัดครั้งแรกของฉัน ฉันจึงยังไม่แน่ใจว่าอาการบวมยุบไปหมดแล้วหรือยัง หรือบางทีอาจเป็นเพราะผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากจนทำให้คนคิดว่าไม่มีอาการบวมแล้วก็ได้ค่ะ

หลังผ่าตัดวันที่ 94

ในการตรวจสุขภาพหลังผ่าตัดครบ 3 เดือน คุณหมอบอกว่าฉันสามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมก่อนผ่าตัดได้แล้ว ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจมากค่ะ คุณหมอยังอนุญาตให้ฉันกลับไปกินอาหารตามปกติได้ แต่ในตอนนี้การเคี้ยวอาหารจำพวกอาหารทะเลหรือเนื้อหมูยังเป็นเรื่องยากสำหรับฉันค่ะ นอกจากนี้ด้วยความที่ฉันทำศัลยกรรมคางมาด้วย จึงยังคงหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำอยู่ เพราะมันทำให้รู้สึกไม่สบายค่ะ

หลังผ่าตัดวันที่ 167

ตอนนี้เพดานปากของฉันเริ่มกลับมารับความรู้สึกได้แล้วค่ะ ฉันคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่แปรงฟันจะรู้สึกได้ชัดเจนเลยค่ะ นอกจากนี้เวลาที่ฉันทารองพื้นบนใบหน้า ก็ยังคงมีความรู้สึกยิบ ๆ อยู่บ้างค่ะ

ฉันยังไม่สามารถกินอาหารที่ต้องใช้การเคี้ยวมาก ๆ ได้ เช่น จอลมยอนและปลาหมึกต้มค่ะ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับตัวกว่าจะสามารถกลับไปกินอาหารที่เคยชอบได้ตามปกติค่ะ

ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ฉันได้มีโอกาสไปเจอเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทุกคนต่างก็ทักว่าฉันดูสวยขึ้นมาก ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกเขินเล็กน้อยค่ะ นอกจากนี้ฉันยังได้ไปเที่ยวและถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ด้วย ที่สำคัญที่สุดคือฉันไม่รู้สึกกดดันหรือประหม่ากับการถ่ายรูปเหมือนแต่ก่อนอีกแล้วค่ะ

หลังผ่าตัด 6 เดือน

หลังจากการผ่าตัดในช่วงแรกๆ ฉันต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อปกปิดใบหน้าที่ยังบวมอยู่ตลอดเวลาค่ะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีในช่วงที่กำลังพักฟื้น แต่ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปแล้ว ฉันก็อยากถอดมันออกเต็มทีแล้วค่ะ แม้ว่าอาการจะยังฟื้นตัวไม่เต็มที่นัก เพราะยังมีอาหารบางอย่างที่ฉันยังเคี้ยวได้ลำบากอยู่ แต่โดยรวมแล้วฉันก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเหมือนก่อนผ่าตัดแล้วค่ะ

ตอนนี้ฉันใช้ชีวิตได้ดีขึ้นมากจนแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยผ่านการผ่าตัดมาค่ะ สิ่งที่คิดอยู่ในตอนนี้คือการไปถ่ายรูปติดบัตรใหม่ค่ะ

หลังผ่าตัด 8 เดือน

ตอนนี้เวลาผ่านไปนานจนฉันจำไม่ได้แล้วว่าหน้าตาตัวเองก่อนผ่าตัดเป็นยังไงค่ะ มันก็แปลกดีนะ แม่ฉันต้มปลาหมึกให้กินทุกครั้งที่กลับบ้าน เพราะรู้ว่าฉันชอบมาก แต่ตอนนี้ก็ยังกินไม่ได้อยู่ดีค่ะ น่าเสียดายจริง ๆ สงสัยคงต้องรออีกหน่อยค่ะ

เขาว่ากันว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติหลังผ่าตัดครบหนึ่งปี (แต่ก็แล้วแต่คนนะคะ) ฉันก็คิดว่าตัวเองน่าจะฟื้นตัวเร็ว แต่ดูเหมือนว่าการฟื้นฟูร่างกายยังไม่จบลงซะที

เมื่อเร็วๆ นี้ได้เจอเพื่อนที่เคยพยายามห้ามไม่ให้ฉันไปผ่าตัดค่ะ เราไม่ได้เจอกันมา 8 เดือนแล้วนะที่จริงแล้วเจอกันเพราะเธออยากเห็นหน้าใหม่ของฉันค่ะ พอเจอกันเธอก็ยิ้มให้ แล้วบอกว่าถึงแม้ตอนแรกจะห้ามไว้ แต่ตอนนี้เห็นแล้วก็พูดได้เลยว่าการผ่าตัดครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก ๆ ค่ะ

หลังผ่าตัด 1 ปี

พูดตามตรงนะคะ หลังผ่าตัดก็ยังมีเรื่องจุกจิกกวนใจบ้าง แต่เมื่อเทียบกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับหน้าตาแล้ว เรื่องเล็กน้อยพวกนั้นก็กลายเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ ไปเลยค่ะ ฉันไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจผ่าตัดขากรรไกรคู่ครั้งนี้

ที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักฉันมาก่อน หรือคนที่เคยรู้จัก ต่างก็ดูไม่ออกว่าฉันไปทำศัลยกรรมมาค่ะ มีแต่คนทักว่าดูเปลี่ยนไปนะ สวยขึ้นนะ แต่ก็ไม่มีใครสงสัยเลยว่าไปผ่าตัดมาแน่ ๆ

ล่าสุดได้ลองเอาภาพถ่ายเมื่อเร็ว ๆ นี้ไปเทียบกับรูปเก่าเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เห็นชัดเลยว่าหน้าดูอิ่มขึ้นมาก พอไม่ได้ดูรูปเก่ามานานก็เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองดูสวยขึ้นขนาดไหน และขอบอกเลยว่าฉันพอใจกับผลลัพธ์การผ่าตัดครั้งนี้มาก ๆ ค่ะ

สรุปรายการศัลยกรรมที่ทำ

  • ศัลยกรรมขากรรไกรคู่ (Double Jaw Surgery)
  • วีไลน์ (V-Line)